ผลกำไรของรอมาฎอน (ที่ต้องอยู่เคียงข้างมุสลิมไปตลอดชีวิต)


นักเศรษฐศาสตร์และนักการเงินอิสลามมองว่า เมื่อเราได้ลงทุนหรือการค้าใดก็ตามย่อมมีผลกำไรไม่มากก็น้อย เช่นเดียวกับการลงทุนปฎิบัติตามคำสั่งใช้ในเรื่องการถือศีลอด แม้รอมาฎอนได้เข้ามาและพ้นไปเป็นระยะ 1400 กว่าปีมาแล้ว แต่รอมาฎอนก็มิได้ผ่านมาและผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ไร้ผลผลิต และไร้พลังแฝง

รอมาฎอนได้มอบสิ่งดีๆ หลายประการให้แก่พี่น้องมุสลิมทั่วโลกที่มีหัวใจศรัทธาและเชื่อมั่น ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ จิตวิญาณ และร่างกาย ทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมส่วนรวม เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจเผชิญหน้ากับปัญหามากมายที่จะถาทมเข้ามาตลอดชีวิตของ ความเป็นมุสลิม ซึ่งอาจจะได้รับอิทธิพลมาจากความหลงผิด ความเชื่ออันงมงาย สังคมอันเสื่อมโทรม เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และการเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ตลอดจนกระแสโลกาภิวัฒน์ที่พยายามกลืนกินวัฒนธรรมอื่นก่อนเข้าครอบงำโลกอย่าง เต็มรูปแบบ และบทเรียนที่สำคัญได้แก่


1. การเชื่อฟังคำสั่งต่ออัลลอฮ์และการยึด มั่นคำสั่งของท่านนะบีมุฮัมมัดต้องมาเป็นอันดับแรก ซึ่งจะเห็นได้จากการเริ่มต้นถือศีลอดในเดือนรอมาฎอน พร้อมๆกับปฎิบัติตามเงื่อนไขและกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ทั้งๆที่สามารถรวมตัวกันต่อต้านหรือบิดเบือนคำสอน โดยเฉพาะในยุคดิจิตอลและไฮไฟที่เต็มไปด้วยอิสระทางการแสดงความคิดเห็น หรือในประเทศที่มิได้ปกครองด้วยกฎหมายอิสลาม ดังนั้นการเชื่อฟังและน้อมรับมาปฎิบัติอย่างเต็มใจจึงถือเป็นปัจจัยหลักของ การเป็นมุสลิมและนับถือศาสนาอิสลาม


2. การอดทน การอดกลั้นอย่างมีสติ การซื่อสัตย์ต่อตนเอง ตลอดจนการหยับยั้งอารมณ์ คำพูด และการกระทำบางประการที่ก่อความเดือนร้อนแก่ผู้อื่น สิ่งเหล่านี้สามารถพบได้จากการงดกินงดดื่ม ทั้งที่สามารถกระทำได้ยามอยู่เพียงลำพังคนเดียว ไม่มีใครคอยควบคุม จนทำให้เราค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่เรียกว่า ความอดทนและความซื่อสัตย์ต่อตนเอง โดยความหิวโหยจะทำให้เข้าใจชีวิตที่แท้จริงมากขึ้น ลดความเหลี่อมล้ำทางฐานะ เกียรติทางสังคม และอำนาจจอมปลอมให้น้อยลง จนทำให้ทุกคนอยู่บนมาตรฐานเดียวกันคือความเสมอภาพทางสังคม เช่นเดียวกับการยับยั้งอารมณ์ คำพูด และการกระทำบางประการที่ทำให้คนอื่นเดือนร้อนล้วนบ่งบอกถึงวิถีการดำเนิน ชีวิตของมุสลิมที่ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไว้วางใจกัน อีกทั้งยังพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำอันเป็นบ่อเกิดของความเสื่อมเสียและความ ขัดแย้งในด้านต่างๆ


3. การใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง มีระบบ มีระเบียบ มีวินัย และใช้เวลาทุกนาทีอย่างมีคุณค่าและทุกวันอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนเคร่งครัดต่อบัญญัติศาสนาควบคู่กับใช้ชีวิตอย่างปกติหรือปฎิบัติหน้า ที่การงานอย่างควบคู่กัน สิ่งเหล่านี้ล้วนพบได้จากขั้นตอนการถือศีลอดในแต่ละวันตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากทานซูฮูร ละหมาดซุบฮิ ละเว้นข้อห้ามต่างๆ พร้อมกับทำงานและดำเนินชีวิตตามปกติอย่างระมัดระวังไปจนถึงเวลาละศีลอด ละหมาดมัฆริบ ละหมาดอิชา ตะร่อเวียฮฺ ตะฮัจยุต และวิเตร ทุกอย่างต้องดำเนินไปอย่างมีระบบระเบียบและเรียงตามลำดับหรือความสำคัญ โดยเฉพาะการปฎิบัติศาสนกิจที่มุ่งหวังโลกหน้าแต่ไม่ตัดขาดจากโลกการดำรงชีพ แต่ละวัน หากประชากรมุสลิมใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบและมีวินัย แน่นอนย่อมจะส่งผลในทางที่ดีต่อสังคมและประชาคมโลกอย่างหลีกเลี่ยงมิได้


4. การให้ความสำคัญต่อสุขภาพ โดยพบได้จากการสนับสนุนให้ถือศีลอดเพื่อสุขภาพดี การเป็นมุมินที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงย่อมดีกว่ามุมินที่ อ่อนแอ ตลอดจนการยอมรับในวงการแพทย์ เกี่ยวกับคุณค่าของการถือศีลอดที่สามารถเยียวยาโรคภัยและขจัดความความอ่อนแอ ทางร่างกายออกไป


5. การใส่ใจในศึกษา เรียนรู้ และค้นคว้า ซึ่งเห็นได้จากการส่งเสริมให้อ่านอัลกุรอานและศึกษาเนื้อหาตลอดเดือน เนื่องจากอัลกุรอานเป็นที่มาของอัลอิสลามและเป็นคลังของ ศาสตร์และความรู้แขนงต่างๆ และยังประกอบด้วยบทเรียนทางประวัติศาสตร์มากมายที่มีประโยชน์ต่อสังคมยุคไร้ พรมแดน รวมทั้งรวมข้อคิดคำแนะนำดีๆ เพื่อการพัฒนาสังคมและก้าวสู่โลกแห่งอนาคต


6. การเห็นอกเห็นใจต่อกัน เสียสละ ค้ำจุน ลดความเห็นแก่ตัว และช่วยกันดูแลสังคมรอบข้าง สามารถเรียนรู้ได้จากการทำเศาะดาเกะฮฺ (ทำทาน) แก่คนยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส และการจ่ายกัฟฟาร่อฮฺ (ค่าปรับ) แก่กลุ่นคนตามศาสนากำหนด ตลอดจนการสนับสนุนให้บริจาคช่วยเหลือสังคม จนทำให้รู้จักคำว่า เสียสละ เกื้อกูล และแบ่งปัน ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสร้างคน สร้างสังคมใหม่บนพิ้นฐานอิสลามได้ดี


7. การประหยัดและมัถยัสถ์ในการกินอยู่และการใช้จ่าย ซึ่งสามารถพบได้ตลอด 29-30 วัน เนื่องจากเงินเก็บในกระเป๋าหรือออมกับธนาคาร แต่ไม่สามารถหยิบมาตอบสนองความต้องการของตนเองได้ทุกเวลา ดังนั้นการประหยัด มัถยัสถ์ และไม่ฟุ่มเฟื่อยจึงถือเป็นพลังแฝงด้านเศรษฐกิจที่ถูกสอดแทรกมาตลอดเดือนรอ มาฎอน และเป็นตัวค้ำจุนให้มุสลิมดำเนินชีวิตไปด้วยดีมีความสุขพร้อมกับปฎิบัติตน ตามคำสอนของศาสนา


8. การประกอบอิบาดะฮ์อย่างพร้อมเพรียงกัน แม้จะเริ่มต้นและสิ้นสุดแตกต่างกันก็ตาม แต่ภาพรวมของรอมาฎอนสำหรับโลกมุสลิมกว่า 1600 ล้านคนที่ปรากฎต่อสายตาชาวโลกคือ ความเป็นหนึ่งของโลกมุสลิมแม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละขั้วโลก คนละเชื้อชาติ และสีผิว ซึ่งพบได้จากการประกอบอิบาดะฮ์ตลอดเดือน ทั้งถือศีลอด ละหมาด เอี๊ยะตกาฟ และอื่นๆ เอกภาพของการประกอบอิบาดะฮ์อย่างเอาจริงเอาจังก่อให้เกิดผลประโยชน์มากมาย ต่อโลกมุสลิม


ที่กล่าวมาคือ ผลกำไรบางประการที่ค้นพบจากรอมาฎอนอันประเสริฐที่ฝังรากอยู่ในตัวมุสลิมหลัง ผ่านสนามการถือศีลอดมาตลอดเดือน ซึ่งถือเป็นตัววัดการเป็นมุสลิมอย่างมีคุณภาพ และหากเรานำผลกำไรดังกล่าวออกมาใช้ต่อยอดในช่วงวันเวลาที่เหลือ แน่นอนย่อมก่อให้ประโยชน์อย่างใหญ่หลวง ทั้งในระดับส่วนตัว ครอบครัว และสังคมทั่วไป และนั้นคือเหตุผลว่า ทำไมผลกำไรดังกล่าวจะต้องอยู่คู่กับความมุสลิมไปตลอดชีวิต !!!

0 ความคิดเห็น: