ชาวยิว วางเพลิงมัสยิด เผากุรอานในเขตเวต์แบ็งค์

ข่าวเอเจนซี่ – ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวยิวก่อความตึงเครียดครั้งใหม่ โดยการวางเพลิงมัสยิดในหมู่บ้านชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์ แบ๊งค์ เมื่อวันจันทร์ (04/10) โดยพ่นสีบนกำแพงมัสยิดด้วยคำว่า “แก้แค้น” เป็นภาษาฮิบรู และเผาอัลกุรอานหลายสิบเล่ม

อะลี ตาว๊าบตี เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในหมู่บ้าน Beit Fajjar ระบุว่า อัล-กุรอานถูกเผาไป 15 เล่ม และพรมบางส่วนในมัสยิดไหม้ไฟ เคราะห์ดีที่ชาวบ้านกรูกันมาช่วยดับ ส่วนผู้ก่อเหตุชาวยิวขับรถเปอโยต์สีขาวหลบหนีไปได้

ครั้งนี้นับเป็น ครั้งที่ 4 นับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน ที่มัสยิดในเขตเวสต์แบ๊งค์ถูกโจมตีโดยชาวปาเลสไตน์กล่าวว่า ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางการอิสราเอลที่ควบคุมพื้นที่กล่าวว่าจะสอบสวนเรื่องนี้ต่อไป

การ ขับเคลื่อนสู่การเจรจาสันติภาพในตะวันออกกลางต้องประสบวิกฤติเมื่อสัปดาห์ ก่อน เนื่องจากเงื่อนเวลา 10 เดือน ที่อิสราเอลกำหนดไว้ในการระงับการขยายการตั้งถิ่นฐานใหม่ในเขตเวสต์ แบ๊งค์ได้สิ้นสุดลง และนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูของอิสราเอล ยืนยันไม่ยอมตามการกดดันของสหรัฐ และนานาชาติ ที่ให้ขยายเวลาการระงับ ฯ ออกไปอีก

ผู้นำปาเลสไตน์กล่าวเมื่อวันเสาร์ ว่า การเจรจาที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน จะไม่ดำเนินต่อ เว้นแต่อิสราเอลจะยุติการขยายตั้งถิ่นฐานไว้ก่อน

เมื่อวันจันทร์ เนทันยาฮูกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอิสราเอลว่า ประเทศกำลังเผชิญสถานการณ์ทางการทูตที่เปราะบางกับสหรัฐอเมริกา และเรียกร้องให้รัฐมนตรีอดทน เยือกเย็น มีความรับผิดชอบ และสงบปากสงบคำไว้ก่อนในช่วงนี้

ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวยิวในเขตเวสต์ แบ๊งค์ ขณะนี้มีประมาณ 5 แสนคน องค์กรเฝ้าระวังด้านสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งทรัพย์สินของชาวปาเลสไตน์ถูกทำให้เสียหาย รวมทั้งมัสยิดหลายแห่ง

อย่าง ไรก็ตาม การยื่นคำขาดของสหรัฐให้อิสราเอลขยายเวลาระงับการขยายตั้งถิ่นฐานใหม่ ต้องเผชิญกับการต่อต้านอย่างแข็งขัน จากรัฐมนตรียิวสังกัดกลุ่มหัวรุนแรงเมื่อวันจันทร์ และเนทันยาฮูตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา เมื่อต้องอธิบายให้คณะรัฐมนตรีเห็นคล้อยตามกับข้อเสนออ่อยเหยื่อของสหรัฐ เพื่อแลกกับการขยายเวลาการระงับตั้งถิ่นฐานออกไปอีก

ข่าวหนังสือ พิมพ์ระบุว่า ในจำนวนรัฐมนตรี 30 คน ครึ่งหนึ่งต่อต้านการขยายเวลาระงับการสร้างที่อยู่อาศัย สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่

ส่วนอีก 8 คน ระบุว่าจะสนับสนุนการขยายเวลา ในขณะที่รัฐมนตรีอีก 7 คน ยังไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งหมายความว่า หากเนทันยาฮูสามารถโน้มน้าวให้รัฐมนตรี 7 คน หันมาสนับสนุนได้ เขาก็ยังต้องการอีก 1 เสียงเพื่อให้ชนะฝ่ายที่ค้าน

หนังสือ พิมพ์ดังกล่าวยังให้รายละเอียดอีกว่า ในจำนวน 15 รัฐมนตรีที่คัดค้าน มี 8 คนที่มีอิทธิพลทางด้านความมั่นคงของประเทศ ซึ่งคัดค้านหัวชนฝาในเรื่องนี้ ในขณะที่ 4 รัฐมนตรี มีความคิดไม่รุนแรงในเรื่องนี้ และอีก 3 รัฐมนตรีระบุว่ายังไม่ได้ตัดสินใจ