สตรีต้องตามบุรุษเสมอไปหรือไม่?


1. แท้จริง อิสลามให้สตรีมีความอิสระจากบุรุษอย่างสมบูรณ์ในแง่ของเศรษฐกิจ กล่าวคือ นางมีอิสระภาพอย่างเต็มที่ในการจับจ่ายใช้สอยในทรัพย์สินที่นางครอบครอง เช่นการซื้อ การขาย การให้ การลงทุน และอื่น ๆโดยไม่ต้องขออนุญาตจากสามีตราบใดที่นางมีคุณสมบัติสมบูรณ์ และไม่อนุญาตให้สามี และคนอื่น ๆ จากเครือญาติ เอาทรัพย์สินของนางนอกจากต้องได้รับอนุญาตจากนางเสียก่อน

2. ไม่อนุญาตให้บุรุษ แม้ทั่งผู้เป็นบิดา ทำการบังคับสตรีให้แต่งงานกับบุรุษที่นางไม่รัก เพราะการแต่งงานนั้น จำเป็นต้องได้รับการยินยอมและความพอใจจากนาง มีสตรีคนหนึ่งได้ไปหาท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพื่อฟ้องร้องกับท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า บิดาของนางได้บังคับให้แต่งงานกับบุตรของพี่น้องของบิดา เพื่อดังกล่าวจะสามารถยกฐานะของเขา โดยที่นางมีความรังเกียจ ดังนั้น ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จึงเชิญบิดามาของนางมา และให้สตรีคนนั้น ทำการเลือกได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะปฏิเสธการแต่งงานหรือให้การยอมรับ ดังนั้น นางสามารถที่จะกำหนดได้ตามความประสงค์ในการตอบรับการแต่งงาน และนางได้กล่าวว่า "โอ้ ร่อซูลัลลอฮ์ ฉันได้ยินยอมกับสิ่งที่บิดาได้กระทำแล้ว แต่ทว่าฉันประสงค์ที่จะให้บรรดาสตรีรับรู้ว่า แท้จริง บิดานั้นไม่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ (1) หมายถึง บิดาไม่มีอำนาจบังคับให้บุตรสาวทำการแต่งงาน
3. สตรีย่อมมีส่วนร่วมกับบุรุษเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวและการเลี้ยงดูบุตร และคงเป็นไปไม่ได้ ที่ชีวิตครอบครัวจะมั่นคงหากปราศจากความร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งหากไม่เป็นเช่นนั้น เสถียรภาพของครอบครัวก็จะสั่นคลอน และสิ่งดังกล่าวจะส่งผลในแง่ลบแก่บุตร แท้จริงท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้มอบให้บุรุษและสตรีทำการแบกรับความรับผิดชอบนี้ร่วมกัน คือในขณะที่ท่านร่อซูลุลเลาะฮ์ ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า "ทุกท่านย่อมมีภาระหน้าที่ และทุกท่านต้องรับผิดชอบจากหน้าที่ของตนนั้น ดังนั้น ผู้นำย่อมมีภาระหน้าที่และเขาต้องรับผิดชอบจากภาระหน้าที่ของเขา , สามีย่อมมีภาระหน้าที่และเขาต้องรับผิดชอบจากหน้าที่ของเขา , ภรรายาย่อมมีภาระหน้าที่ดูแลในบ้านของสามีและนางต้องรับผิดชอบจากหน้าที่ของ นาง" (2)
การมอบภาระหน้าที่รับผิดชอบให้แก่สตรี ณ ที่นี้ ย่อมปฏิเสธข้อกล่าวที่สตรีต้องตามบุรุษเสมอไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากภาระรับผิดชอบนั้นจะไม่มีหากปราศจากอิสระภาพ และอิสระภาพจะไม่เกิดขึ้นหากพร้อมกับการตาม
4. ไม่อนุญาตให้บุรุษทำการห้ามสตรี ซึ่งสิทธิต่าง ๆ ที่ถูกบัญญัติตามหลักศาสนาในการดำเนินชีวิตของนาง และไม่อนุญาตให้เขาทำการห้ามนางไปมัสยิดเพื่อทำอิบาดะฮ์ เพราะได้มีรายงานจากท่านนบี ซ๊อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า "พวกท่านอย่าห้ามบรรดาสตรี ทำการละหมาดในมัสยิด" (3) และขณะที่บรรดามุสลิมส่วนหนึ่งได้ยึดถือประเพณีอันไม่ถูกต้อง โดยไม่ได้ปฏิบัติจุดยืนต่าง ๆ ของอิสลามเหล่านี้ที่มีต่อสตรี ดังนั้น แท้จริงสิ่งดังกล่าวนั้น นับว่าเป็นความโง่เขลาต่ออิสลามและหลักการต่าง ๆ ของอิสลาม หรือไม่เข้าใจหลักคำสอนต่าง ๆ ของอิสลามที่ชัดเจน
-------------------------------
(1) รายงานโดย อัลบุคอรีย์ ในบทว่าด้วยเรื่องการนิกะฮ์
(2) รายงานโดย อัลบุคอรีย์ และมุสลิม
(3) รายงานโดย ท่านอิบนุมาญะฮ์ ใน บทนำ เล่ม 1 หน้า 8
อ้างอิงจาก อ้างอิง จากหนังสือ حقائق إسلامية فى مواجهة حملات التشكيك "ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอิสลาม ในการเผชิญต่อการสร้างความสงสัย" ของท่าน ศาสตราจารย์ มะหฺมูด หัมดีย์ ซักซูก หน้า 97 - 99 ตีพิมพ์โดย สภาสูง เกี่ยวกับกิจการอิสลาม ประเทศอียิปต์ ปี ฮ.ศ. 1422 - ค.ศ. 2001

0 ความคิดเห็น: