ทำไมจึงต้องเรียนภาษาอาหรับ


โดย อุมมุ มุบีน

10 ยอดเหตุผลแห่งการเริ่มเรียนภาษาอาหรับ

คุณเคยคิดเรื่องการเรียนภาษาอาหรับบ้างไหม แล้วคุณก็ไม่แน่ใจว่าภาษาอาหรับจะเป็นประโยชน์อย่างไรได้บ้างไหม และที่นอกเหนือไปจากนั้น เหตุผลว่าทำไมทุกคนจึงควรเรียนภาษาสักหนึ่งภาษา นี่ก็เป็นอีกเหตุผลสำคัญ 10 ประการเช่นกันว่า ทำไมภาษาอาหรับจึงอาจเป็นตัวเลือกสุดยอดสำหรับคุณก็เป็นได้

1. ภาษาอาหรับเป็นภาษาประจำชาติที่ใช้พูดกันโดยทั่วไปมากที่สุด อยู่ในอันดับที่ 5

ภาษาอาหรับเป็นภาษาทางราชการของประเทศต่างๆกว่า 20 ประเทศ และมีผู้พูดเป็นภาษาประจำชาติอีกกว่า 300 ล้านคน คนที่พูดภาษาอาหรับจะอยู่กันหนาแน่นในแถบตะวันออกกลาง และมีเป็นกลุ่มๆอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลก นอกจากนี้ภาษาอาหรับยังเป็นภาษาทางราชการขององค์การสหประชาชาติ สันนิบาตอาหรับ องค์กรการประชุมอิสลาม และสหภาพแอฟิกัน

2. ภาษาอาหรับเป็นภาษาทางศาสนาของอิสลาม

นอกจากเจ้าของภาษาหลายล้านคน ก็ยังมีผู้คนอีกนับล้านที่รู้ภาษาอาหรับในฐานะภาษาต่างประเทศ เนื่องจากเป็นภาษาของอัลกุรอาน ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ชาวมุสลิมทั่วโลก

3. คนที่พูดภาษาอาหรับได้ในโลกตะวันตก เป็นที่ต้องการสูง แต่มีจำนวนน้อย

ด้วยเหตุนี้จึงมีชาวตะวันตกเพียงไม่กี่คนที่ยอมเรียนภาษาอาหรับ จากความสำคัญของตะวันออกกลางในด้านกิจการระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงยังคงมีความขาดแคลนอยู่มากในเรื่องของคนงานที่มีความเชื่ยวชาญ ด้านภาษาอาหรับ และวัฒนธรรมตะวันตกคนที่ศึกษาภาษาอาหรับเหล่านี้สามารถประกอบอาชีพได้หลาย สาขา อิทิ การเขียนข่าว ธุรกิจ อุตสาหกรรม การศึกษา การเงินและการธนาคาร การแปล การให้คำปรึกษา การบริการด้านต่างประเทศและข่าวกรอง และอื่นๆอีกมาก และ ในจำนวนสายลับ เอฟ บี ไอ 12,000 คน ของสหรัฐอเมริกา มีคนเพียงแค่ 1 % เท่านั้น ที่ไม่รู้ภาษาอาหรับ ทั้งนี้รวมถึงผู้ที่รู้เพียงเล็กน้อยด้วย

4. มีแรงกระตุ้นด้านการเงินให้เรียนภาษาอาหรับ

รัฐบาลสหรัฐได้เลือกภาษาอาหรับให้เป็นภาษาที่มีความสำคัญด้านยุทธศาสตร์ จึงได้มีการก่อตั้งโครงการภาษาทางยุทธศาสตร์แห่งชาติขึ้น เป็นสถาบันในปี พ.ศ.2549(2006) โดยส่งเสริมด้านการเรียนภาษาอาหรับ(และภาษาอื่นที่พิจารณาว่าสำคัญ) ในหมู่คนอเมริกัน โดยการให้ทุนการศึกษาจำนวนมาก และสนับสนุนให้มีโอกาสทางการเรียนในหลักสูตรภาษาระยะสั้น ตั้งแต่ระดับต้นจนถึงระดับสูง โครงการศึกษาต่อต่างประเทศ โอกาสทางการสอนที่มีอยู่มากมาย การแลกเปลี่ยนครูและการพัฒนาด้านอาชีพ

5. ชาติที่พูดภาษาอาหรับเป็นตลาดที่โตเร็วด้านการค้า

ความ คิดริเริ่มในการที่จะผสานโลกอาหรับเข้าไว้ในเศรษฐกิจโลก เป็นการเปิดโอกาสอย่างมากให้กับธุรกิจในแถบตะวันตกเฉียงเหนือ ภูมิภาคอาหรับที่มีประชากรเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้มีตลาดส่งออกสินค้าและการบริการที่มีขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่ง และด้วยจำนวนผลผลิตมวลรวมภายในประเทศกว่า 600 ล้าน ล้านดอลล่าร์ต่อปี ก็ได้ทำให้ภูมิภาคแถบนี้สามารถส่งออกให้กับตลาดโลกได้อีกมากเช่นกัน และเพื่อที่จะดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ บุคคลากรจะต้องเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมของคนผู้ซึ่งหวังจะเจรจาและทำการค้าด้วย

6. ผู้ที่พูดภาษาอาหรับได้มีคุณูปการต่ออารยธรรมโลก

ในขณะที่ยุโรปรับรู้ถึงการชะงักงันทางด้านความรู้ของยุคกลาง อารยธรรมอาหรับอิสลามก็ได้รับความเจริญถึงขีดสุด โดยคนอาหรับได้ทำคุณประโยชน์อย่างมากให้กับความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์และปรัชญา โดยความรู้มากมายที่ได้รับจากวัฒนธรรมกรีก โรมัน และไบเซนไทน์นั้น มาจากสิ่งที่ได้มีการเก็บรักษาไว้ในห้องสมุดของชาวอาหรับ นอกจากนี้ชาวอาหรับยังได้ทำประโยชน์ที่สำคัญอีกหลายๆสาขา เช่น วรรณคดี คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การค้นคว้า โหรศาสตร์ และสถาปัตยกรรม เพราะความรู้ทางภาษาอาหรับสามารถสืบเสาะเข้าไปในส่วนขององค์ความรู้ที่มีอยู่มหาศาลในภาษาดั้งเดิมของศาสตร์เหล่านั้นได้

7. โลกที่ใช้ภาษาอาหรับมีมรดกทางวัฒนธรรมอยู่มาก

โลกอาหรับมีศิลปะ ดนตรี วรรณคดี อาหาร วิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน ชาวตะวันตกรู้จักระบำหน้าท้องหรืออาจจะเคยอ่านเรื่องหนึ่งพันราตรี และอาจเคยทำอาหารตะวันออกกลางที่นิยมกัน เช่น ฮุมมุส ฟาลาเฟล อาหารอาหรับประเภทลูกชิ้นทอด ทำด้วยถั่วเมล็ดใหญ่สีน้ำตาล แต่ประสบการณ์ของคนตะวันตกในเรื่องวิถีชีวิตมีจำกัด ดังนั้นการท่องไปในโลกอาหรับจะทำให้คุณได้เรียนรู้และซาบซึ้งถึงผลิตผลทาง วัฒนธรรม และเข้าใจถึงคุณค่าบางอย่างที่มีความสำคัญต่อคนอาหรับ เช่น เกียรติยศ ความสุขุมเยือกเย็น และความเอื้อเฟื้อ

8. การรู้ภาษาอาหรับสามารถส่งเสริมความเข้าใจ ระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างได้

นอก จากการมีประสบการณ์อันจำกัดในเรื่องของวัฒนธรรมอาหรับที่แท้จริงแล้ว ชาวตะวันตกยังได้รับการนำเสนอเกี่ยวกับกลุ่มที่พูดภาษาอาหรับในลักษณะเหมา รวมที่เป็นด้านลบผ่านสื่อต่างๆ จากภาพยนต์ฮอลีวูด และจากแหล่งอื่นๆ

ขณะเดียวกันเหตุการณ์ต่างๆในโลกตะวันออกกลางก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ของเรา การเชื่อถือในภาพลักษณ์ที่ผิดๆ และมองเพียงผิวเผินสามารถที่จะนำไปสู่ความไม่ไว้วางใจ รวมถึงการสื่อสารที่ไม่ถูกต้อง การไม่สามารถร่วมมือกันได้ การเจรจา การประนีประนอม หรือนำไปสู่การเผชิญหน้ากันทางทหาร

ทั้งนี้ผู้ที่เรียนภาษาอาหรับจะมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากกว่าในคุณค่า วัฒนธรรม การเมืองและการศาสนา ซึ่งจะสามารถเจรจาเพื่อลดช่องว่างทางภาษาและวัฒนธรรมระหว่างชาติต่างๆได้ ช่วยให้สามารถแก้ปัญหาและหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างวัฒนธรรมได้ และช่วยให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องด้านการค้าระหว่างประเทศประสบความสำเร็จ

9. อิทธิพลของภาษาอาหรับปรากฏอย่างชัดเจนอยู่ในภาษาอื่น

การ ส่งออกในด้านความคิด สินค้า และการแสดงออกทางวัฒนธรรมจากคนที่พูดภาษาอาหรับปรากฏอย่างชัดเจน ในคำศัพท์ภาษาอื่นๆที่ยืมมาจากภาษาอาหรับ คำว่า เรขาคณิต(algebra) ที่คิดค้นขึ้นโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอาหรับในยุคกลาง สินค้าที่พบเห็นได้โดยทั่วไป เช่น กาแฟ(Coffee) และผ้าฝ้าย(Cotton) มาจากโลกอาหรับ รวมทั้งดอกมะลิ(jasmine) มะนาวผลสีเหลือง(lemon) และมะนาวผลสีเขียว(lime) คำยืมภาษาอาหรับที่ปรากฏในภาษาอังกฤษ บ่งบอกถึงความหมายของสิ่งที่แตกต่างกันออกไป เช่น สมุนไพรเฮนน่า(henna) ศิลปะการถักเชือกเมคราเม่(macrame) กีต้าร์อาหรับที่เรียกว่าอู๊ด(lute) ที่นอน(mattress) หนูทะเลทราย(gerbil) ซอเบท์ของหวานที่ทำมาจากผลไม้ แล้วนำมาแช่แข็ง(sorbet) ทุ่งหญ้าซาฟารี(safari) และผ้ามัสลิน(muslin)

อิทธิพล ของภาษาอาหรับมิได้ปรากฏอยู่ในภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังมีคำที่นำมาใช้เขียนอีกเป็นจำนวนมาก ที่พอสังเกตเห็นได้ในภาษาเปอร์เซีย ตุรกี เคอร์ดิช สเปน ซวาฮิลี อุรดู และในภาษาอื่นๆ

10. ประเทศสหรัฐอเมริกามีชนกลุ่มน้อยเชื้อสายอาหรับ อเมริกัน

ผลการสำรวจของสำนักสำมะโนประชากรสหรัฐปี พ.ศ.2545(2002) พบว่ามีคนจำนวน 1.2 ล้านคนที่สืบทอดเชื้อสายชาวอาหรับอาศัยอยู่ในประเทศอเมริกา แม้ว่าจะด้วยประชากรเพียงเล็กน้อยนี้ แต่ก็มีปริมาณการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษที่ 1990 (พ.ศ. 2533-2543) และจากการที่ว่า วัฒนธรรมเริ่มที่บ้านนั้น แม้เพียงความรู้พื้นฐานในเรื่องของภาษาอาหรับ และวัฒนธรรมก็สามารถสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและยอมรับให้แก่ชาวอเมริกัน กลุ่มนี้ที่มักถูกเข้าใจผิดและตีความผิดได้

มูลนิธิ ชี้นำสู่สันติสุข

0 ความคิดเห็น: