แต่งงานกับมุสลิม ทำไมต้องเปลี่ยนศาสนา


อิสลามนั้นมีทั้งหลักศรัทธา และหลักปฏิบัติ
ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วความเชื่อไม่เหมือนกัน ทุกอย่างย่อมจะมีปัญหาตามมา
การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคน 2 คนค่ะ แต่มันคือการรวมญาติทุกฝ่ายเข้ามา แนวทางคนละอย่าง......

แรกๆอาจจะบอกว่า เรารักกัน เขานิสัยดี เธอนิสัยดี เราเข้ากันได้เป็นอย่างดี
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ต่างคนต่างมีวิถีปฏิบัติที่แตกต่างกันไป
ปกติศาสนาเดียวกัน แต่งงานกันเองยังมีความแตกต่าง ยังมีปัญหาสารพัด จนอยู่กันไม่ยืด

จะเห็นว่า อิสลาม เป็นศาสนาที่ใส่ใจกับทุกรายละเอียดของชีวิต
เราจึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องศาสนา ... เพื่อไม่ต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ในภายหลัง

ขนาดคนศาสนาเดียวกัน ยังมีปัญหาสารพัด จนอยู่กันไม่ยืด
นี่คนละศาสนา Life Style คนละแบบ รูปแบบการใช้ชีวิตต่างกัน...



คนละศาสนา แน่นอนความเชื่อ และความศรัทธาที่แตกต่างกันย่อมมีผลต่อการดำรงชีวิตคู่
หากต่างคนต่างความเชื่อแล้วอยู่กันยังได้ ตรงนี้ถ้าในทัศนะอิสลามแล้ว แสดงว่าหย่อนยานทางศาสนา
สุดท้ายหมดรักกันแล้ว มักจะแยกย้ายกันไป มีลูกก็จะเป็นปัญหาจะไปทางใด
ต่างยื้อยุดฉุดไปในทิศทางการเลี้ยงดูตามความเชื่อของฝ่ายตน


หากจะกล่าวว่า ก็ต่างคนต่างอยู่ในความเชื่อของตนไปสิ เราลองมาดูรายละเอียดปลีกย่อยที่ยามรักแล้วมองข้ามกัน

- คนหนึ่งไม่ทานหมู ไม่ทานเหล้า อีกคนทานทุกอย่าง อีกฝ่ายจะกล้าทำความสะอาดไหม
- คนหนึ่งทานเนื้อ อีกคนไม่ทานเนื้อ
- คนหนึ่งไปเชงเม้งกลางแดดที่ต่างจังหวัด อีกคนไม่ไปแดดร้อนจัด
- คนหนึ่งไหว้เจ้า อีกคนประกอบพิธีทางศาสนาบ่อยๆ
- คนหนึ่งเคร่งครัดในพิธีการ ละหมาด 5 เวลาอีกคนจะรำคาญไหม
- ครอบครัวต่างความเชื่อ.... ตรงนี้เห็นชัดเจน ทั้งพิธีการ ความศรัทธาและหลักปฏิบัติ อยู่ไปเรื่อยๆ ก็จะเผยกันมาเอง ทำไม แฟนลูกไม่มา ทำไม หลานเขย หลานสะใภ้ไม่มา... ทั้งที่อิสลามส่งเสริมเรื่องไปมาหาสู่ระหว่างญาติพี่น้อง มิให้ทอดทิ้งกัน
- ถ้าอีกฝ่ายอยากจะเลี้ยงสุนัข อีกฝ่ายจะอยู่อย่างไร เพราะมีข้อปฏิบัติเรื่องน้ำลายสุนัข
- ถ้ามาอยู่กันเอง ผู้ที่นับถืออิสลามก็มีความผิดทางศาสนา ในเรื่องของซินา(มีความสัมพันธ์โดยที่มิได้แต่งงานกันตามหลักศาสนา ) ซึ่งบุตรที่เกิดมาจากการซินาจะมีผลในการปฏิบัติตามหลักศาสนา เช่น สิทธิรับมรดกของพ่อ

เมื่อมาใช้ชีวิตด้วยกันก็อยากที่จะให้อีกฝ่ายทำในสิ่งที่ดีตามไปด้วย

แรกๆอาจจะเพราะรักจึงยอมทุกอย่าง
แต่พอหมดรัก สิ่งที่เคยมองข้ามเพราะอารมณ์รักบังตาก็จะผุดงอกเงยขึ้นมาทันตา


สุดท้าย ความรักจืดจาง ปัญหาก็จะเริ่มสะสม จากที่ละน้อยที่เคยมองข้ามกันไป
ปัญหาครอบครัวส่วนมากมาจาก ปัญหาเล็กๆน้อยๆที่มองข้ามกันแต่เริ่มแรก

รักอย่างเดียวไม่รอดหรอกค่ะ ต้องใจ..(นักเลง) และเข้าใจถึงวิถีปฏิบัติของกันและกันด้วย

ปัญหามีมาหลายๆอย่าง แต่ถ้าเปลี่ยนความเชื่อมาศรัทธาเหมือนๆกันเห็นหลายๆคนยังเลิกรา ตรงนี้ต้องไปมองดูรายละเอียดส่วนบุคคลแล้วว่า ปฏิบัติตามหลักศาสนาจริงๆรึเปล่า ไม่ใช่พอแฟนออกจากบ้าน ก็ทำเช่นเดิมทันที คุณแฟนมาก็ซ่อนแอบไว้.... สุดท้ายจับได้ ก็ทะเลาะกันไปหาว่าไม่เชื่อใจกัน

นี่แค่ ยกตัวอย่าง....

บางคนบอกแฟนเป็นคนเคร่งศาสนา ไม่เห็นทานหมู บอกว่าต่างคนต่างอยู่ก็ได้ เอ... ถ้าเคร่งครัดจริง นอกจากไม่ทานหมู ก็ต้องไม่ทานเหล้าและละหมาด 5 เวลากิริยาวาจาเรียบร้อย ไม่ล่วงละเมิดจับมือสาว หรือขั้นมีความสัมพันธ์ด้านอื่นๆที่เกินเลย ทั้งที่ยังไม่แต่งงานกัน ไม่เที่ยวตามสถานอโคจรและเป็นบุตรที่ดีของพ่อแม่ นี่แหละค่ะ คนที่เป็นมุสลิมที่ดี และปฏิบัติจริง

ถ้านอกจากนี้ ไม่ทานหมูแต่ทานเหล้า ไม่เคยละหมาด พูดจากไม่สุภาพเที่ยวหลีผู้หญิงละทิ้งพ่อแม่ ก็เป็นได้แค่ศาสนาที่ระบุตามกล่าวอ้างกับทางราชการไว้เท่านั่นแหละค่ะ ^^"

เพราะว่าเราเข้ากันได้ (คำตอบที่ได้ยินกันทั่วไป) แสดงว่าต้องมีอะไรที่เหมือนกันคล้ายๆกันจึงเข้ากันได้ นี่แหละค่ะ การนับถือศรัทธาเหมือนๆกัน ก็ย่อมที่จะเข้ากันและไปได้ดีกว่า

บางคนอาจจะสงสัยว่า แล้วเปลี่ยนมานับถือแล้วต้องมีปัญหากับที่บ้านแน่ๆ ตรงนี้ ผู้ที่จะเข้ารับก็ต้องคุยกับทางบ้านเสียก่อน อย่าลืมว่า อิสลามไม่ได้บังคับขู่เข็นให้มารับนอกจากจะศรัทธา

หากไม่ศรัทธาจริงๆ ไม่สามารถปฏิบัติได้แนะนำว่าหาคนที่มีความเหมือนกันดีกว่าค่ะ ไม่ได้กวนนะคะ ^^

เรื่องนี้มีบ่อยที่ห้องศาสนา.....
พุทธบ้าง คริสต์บ้าง อิสลามบ้าง เวียนวนมาถามกันตลอด
เพราะ ความเชื่อต่างกัน หลักปฏิบัติต่างกัน.......

ในความเป็นจริง ถ้าไม่เหมือนกันก็อยู่กันยากค่ะ
ชีวิตคู่นะคะไม่ได้มาค้างเพียง 1 คืนแล้วจากลาไป......
^^

นอกจากต่างคนต่างไม่มีศาสนาก็จะอยู่กันได้ค่ะ ^^"

ถ้ามาเพราะความรัก แนะนำให้ศึกษาวิถีปฏิบัติของอิสลามเสียก่อนค่ะ เพราะอย่างน้อยถ้าเราหันมานับถือเราก็ต้องปฏิบัติในสิ่งเหล่านี้ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ ให้คุยกับคนของคุณ ว่ามีปัญหานะไม่เข้าใจ เพราะอิสลามความศรัทธาและการปฏิบัติสำคัญมาก มีปัญหาสงสัยสอบถามกันได้ค่ะ....

ดังนั้นแนะนำให้ศึกษาศาสนาเสียก่อนค่ะ ศึกษาจากผู้รู้และปฏิบัติจริงนะคะ มิใช่สอบถามจากผู้มีศาสนาแค่บัตรประชาชน หรือไม่มีศาสนาเลย เพราะคุณจะไม่ได้รับคำตอบที่ถูกต้องในเรื่องของศาสนานั่นเอง

แต่ถ้ามั่นใจไปกันได้ ถึงญาติจะแตกต่างซึ่งแนวทาง แต่ถ้ารู้หลักศาสนาแล้ว จะมีแนวทางที่ไปกันได้อย่างราบรื่นค่ะ เพราะอิสลามมีแนวทางในทุกเรื่องค่ะยิ่งเป็นชาวคัมภีร์( คริสต์ ยูดาย) แนวทางจะใกล้เคียงกันค่ะ

เรียนรู้เพื่อเข้าใจยอมรับ มิใช่ จำเป็นต้องยอมรับเพราะรักเขาอย่างเดียวจนอะไรก็ทำได้ ตรงนี้หมดรักแล้วมีปัญหาแน่ๆ
ลองศึกษาดูว่าทำไมเขาถึงไม่เปลี่ยนมาเป็นแบบคุณแสดงว่าในนั้นมันมีอะไร อะไรตรงไหนที่บอกว่า อิสลามกับคริสต์และยูดาย แต่งกันได้ทำไมเขาถึงมารักกับคุณ ทั้งที่คนละศาสนากัน

อิสลามให้ความสำคัญกับศาสนา
1.พระเจ้า และรอซูล(ศาสนทูตผู้เผยแพร่ศาสนา)
2.มารดา บิดา
3.สามี-ภรรยา
4.บุตร
5.มิตร บุคคลทั่วไป..

ถ้าเปลี่ยนมาแล้ว กับพ่อแม่ที่ต่างศาสนา อิสลามก็ยังส่งเสริมให้ปฏิบัติดีทุกอย่างกับแม่ พ่อ เคารพเชื่อฟังท่าน ทำความดีกับท่าน อย่างเต็มความสามารถ(ที่ไม่ขัดกับลักการอิสลาม)โดยลำดับความสำคัญนั้นรองลงมาจาก พระเจ้าและรอซูล(ศาสนทูตผู้เผยแพร่ศาสนา) แม่มาก่อนพ่อเพราะแม่เป็นผู้ดูแลเลี้ยงดูบุตรทุกอย่าง และในเรื่องของครอบครัว ระหว่างสามีภรรยานั้น ภรรยาก็ต้องเคารพสามี แต่ถ้ามารดาสั่งอะไรที่เกินเลยศาสนา และละเมิดสิทธิระหว่างสามีภรรยาอันนี้ต้องมาพูดคุยกันแล้ว....

เพิ่มเติม ถ้าจะเข้ารับแล้วมีคนในที่นับถืออิสลาม(ไม่ใช่ผู้รู้ เพราะบางคนที่นับถือใช่ว่าจะรู้ทั้งหมด อาจปฏิบัติผิดพลาดกันได้ ) บอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แนะให้ศึกษาจากผู้รู้ดีกว่าค่ะ จะได้ไม่มีข้อผิดพลาดและเกิดความเข้าใจผิดเข้าใจคลาดเคลื่อนกันเอง

การรักษาอนามัยและการแสงหาความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ
การละเว้นจากการกินเนื้อหมูเป็นขั้นตอนหนึ่งซึ่งอิสลามกำหนดไว้เพื่อเป็นการ
รักษาสุขภาพอนามัย และการได้รับความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ

อิสลามสอนให้มนุษย์มีชีวิตสะอาดอย่างไร ?
ประการแรก อิสลามได้ย้ำเรื่องความสะอาดบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณและความ
สะอาดของร่างกาย และประการที่สองคือการบริหารร่างกายที่เหมาะสม หลักการอิสลาม
หนึ่งในห้าประการคือการละหมาดห้าเวลาในแต่ละวันนั้นเป็นสิ่งที่ยืนยันถึงเรื่องนี้ วิทยา
ศาสตร์อาจจะเน้นเรื่องของอนามัย แต่จะไม่ใส่ใจต่อความสำคัญของการปลูกฝังธรรม
ชาติอันบริสุทธิ์ของมนุษย์ หากจะเปรียบไปก็เหมือนกันการเน้นการศึกษาเรื่องวัตถุนิยม
และจิตนิยม ความจริงแล้ว จิตนิยมและวัฒนธรรมของธรรมชาติอันบริสุทธิ์นั้นเป็นศาสตร์
และปรัชญาสองวิชาที่ถูกทอดทิ้งไปในช่วงระยะหนึ่ง ที่ข้าพเจ้าพูดว่าทิ้งช่วงไประยะหนึ่ง
ก็เพราะข้าพเจ้าเชื่ออย่างจริงใจว่ามันจะถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกและจะมีความสำคัญต่อไป
ในอนาคตโดยการประดิษฐ์คิดค้นของวิทยาศาสตร์
วิชาอนามัยเป็นเรื่องภายนอกและเป็นเรื่องทางวัตถุ แต่เรื่องวัฒนธรรมของธรรม
ชาติภายในนั้นเป็นเรื่องน่าสนใจที่เกี่ยวข้องทั่วร่างกายและจิตวิญญาณ

อิสลามยอมรับและไม่ทำลายความรู้สึก
เช่นเดียวกับศาสนาอื่น ๆ อิสลามได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อลักษณะและคุณธรรม

0 ความคิดเห็น: