เมืองมายา…ป่าคอนกรีต


ท่ามกลางความศิวิไลซ์...จะใช้ชีวิตอย่างไรให้ใกล้ชิดอัลลอฮฺ


โดย ยูซุฟ อบูบักรฺ


ลมเอื่อยพัดมาผ่านมาจากกระทบต้นไทรหน้าบ้านแรงพอที่จะทำให้ยอดใบปลิวไหวไป มา นกกรงดอกแตงวิ่งกระโดดไล่จิกแมลงอยู่ตรงลานหญ้าเจ้าชู้ข้างบ้าน...สักพักก็ โผบินไปอย่างไม่ใส่ใจต่ออะไรทั้งปวง...ฉันพร่ำอยู่ในห้วงคิดคำนึงคงเป็น เรื่องที่ชี้บ่งว่า “ความอิสรภาพของโลกใบนี้เป็นของมันแต่เพียงผู้เดียว...”

สภาพอากาศตอนสายของวันอาทิตย์...แดดแสงอ่อน...สายลมเอื่อย...พอจะนำพาให้ รู้สึกผ่อนคลายปลดปล่อยจากอารมณ์เคร่งเครียดของอะไรบางอย่างภายใน 2-3 เดือนที่ผ่านมาไปได้บ้าง

สัปดาห์ที่เลยผ่านกับการเดินทาง...ได้พบเจอสิ่งต่างๆ มากมาย เมืองมนุษย์แห่งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์...กับป่าคอนกรีตในเมืองดูไบ ความศิวิไลซ์ได้ตีปีกเหล็ก แผ่ลงมาปกคลุมชาวโลกเกือบทั่วอาณาแคว้นแดนดิน ทุกอณูอากาศถูกอัดแน่นด้วยความก้าวหน้าของมายาวัตถุสิ่งแปลกใหม่รูปแบบต่างๆ นาๆ ที่มนุษย์สรรหาผลิตขึ้น

การใช้ชีวิตของมนุษย์ในเมืองแห่งสวนป่าเทคโนโลยี โลดโผน เร่งรีบกันเหลือเกิน ต่างเบียดแย่งแข่งขัน ต้องเอาตัวเองให้รอด ความปรารถนา ความต้องการไร้ขีดจำกัด รถราวิ่งไปมากันขวักไขว่ดูแล้วให้ความสับสนวุ่นวายในอารมณ์ การ ที่จะหันกลับไปสู่การใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงวิถีชีวิตของบรรพชนผู้สร้าง ประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์แห่งอิสลามนั้นดูเหมือนจะยากลำบากอยู่มิน้อย เลย......นั่น คือปัจจุบันที่เป็นไปในแนวทางการดำรงชีพของสิ่งมีชีวิต ที่มีสติปัญญาที่มาอาศัยอยู่บนพื้นดาวเคราะห์ที่มีทรงกลมซึ่งผิวของมันขรุ ขระดวงนี้...

ท่ามกลางปัญหาที่รายล้อม กับสังคมที่เราจำเป็นต้องอาศัยอยู่ปะปนไปกับกระแสธารของความป่าเถื่อนโหด ร้าย กระแสความขัดแย้งแบ่งแยกกันเกือบจะทุกหัวระแหง ความแปลกแยกใน สังคมถูกแบ่งเป็นฝักฝ่าย แบ่งขั้วเลือกข้าง เราในฐานะผู้ศรัทธาจะนำพา (ใช้) ชีวิตอย่างไรให้ใกล้ชิดกับอัลลอฮฺได้มากที่สุด ?


ต่อไปนี้คือข้อเสนอแนะเพียงบางประการที่จะช่วยเสริมแต่งให้ชีวิตของผู้ ศรัทธาได้ใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ระหว่างผู้สร้างมหาสากลจักรวาลกับผู้ที่ถูกสร้างที่แสนจะอ่อนแอต่ำต้อย


1. นำอิสลามมาปฏิบัติทุกแง่มุมของการดำเนินชีวิต โดย ไม่ยึดติดประเพณีนิยมและความเชื่อเก่า ๆ ทุกอักขระของอัลกุรอาน และทุกอริยบทจากจริยวัตรของท่านรอสูลุลลอฮฺ ต้องนำมาพิจารณาใคร่ครวญ แล้วต้องพยายามกลั่นออกมาเป็นการกระทำอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ยึดถือปฏิบัติแค่เพียงบางส่วนแล้วทิ้งอีกบางส่วน หรือทำตามอารมณ์ความพึงพอใจแห่งตน และให้ตระหนักอยู่เสมอว่าศาสนาที่ได้รับการยอมรับจากพระผู้สร้างคือ อิสลาม อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอาลาอิมรอน อายะฮฺที่ 19 ความว่า

“แท้จริงศาสนา ณ ที่อัลลอฮฺ คือ ศาสนาอิสลาม”


2. ศึกษาหาความรู้ที่เกี่ยวกับหลักคำสอนแห่งอิสลาม ทำ ความเข้าใจให้รู้อย่างถ่องแท้ ไม่หวั่นไหวต่อกระแสของอารยธรรมอันจอมปลอมที่กำลังโหมกระหน่ำสังคมอยู่ทุก วี่วัน อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอันอาม อายะฮฺที่ 125 ความว่า

“ผู้ใดที่อัลลอฮฺทรงต้องการจะแนะนำเขา พระองค์ก็จะทรงให้หัวอกของเขาเบิกบานเพื่ออิสลาม”

และ ยังมีหลักฐานอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นคำดำรัสของอัลลอฮฺ หรือพจนารถของท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ที่บ่งบอกถึงเรื่องนี้


3. เชื่อมั่นต่อเจตนารมณ์และอุดมการณ์อิสลามอย่างแน่วแน่ ว่า เป็นวิถีเดียวเท่านั้นที่สามารถสานฝันให้ประชาคมโลกได้ เป็นครรลองเดียวที่สามารถนำสันติภาพมาสู่โลกอันแสนวุ่นวายโหดร้ายใบนี้ ดังที่อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺอัฏเฏาะลาค อายะฮฺที่ 3 ความว่า

“และผู้ใดที่ได้มอบหมายกิจการงานต่ออัลลอฮฺ เป็นการเพียงพอแล้วสำหรับเขา”


4. รวมตัวเป็นกลุ่ม (ญามาอะฮฺ) ไม่ นำเอาปัญหาปลีกย่อยมาเป็นกำแพงเพื่อขวางกั้นความเป็นพี่น้อง เพราะการรวมตัวจะนำไปสู่ความเป็นภราดรภาพ และเป็นเหตุทำให้ศัตรูมิกล้ามากล้ำกราย ทำร้าย ในเมื่อเราอยู่อย่างสุขสบาย โอกาสที่เราจะเป็นบ่าวที่ใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺก็มีทางเป็นไปได้มาก ความสำเร็จต่าง ๆ ก็เกิดขึ้นได้โดยพลังมวลชน (ญามาอะฮฺ) และอนาคตอันใกล้รัฐอิสลามก็จะถูกสถาปนาขึ้นอีกครั้ง (อินชาอัลลอฮฺ) ดังปรากฏในพจนารถของท่านศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮฺอะลัยฮิวะสัลลัม ความว่า

“แท้จริงพระหัตถ์ของอัลลอฮฺจะอยู่พร้อมกับบรรดาผู้อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม (ญามาอะฮฺ)”


5. อดทน อดกลั้นต่อภัยพิบัติ และการทดสอบในรูปแบบต่าง ๆ ไม่มีใครถูกพันธนาการไปกับความทุกข์ระทมไปตลอดชีวิตและไม่มีใครจะสมหวังตลอด ไป หลังจากกระแสลมพายุพัดโหมกระหน่ำ ในอีกไม่นานวันที่ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพก็จะมาเยือน อัลลอฮฺได้ตรัสไว้ในซูเราะฮฺ อะละอิมรอน อายะฮฺที่ 139 ความว่า

“สูเจ้าจงอย่าได้ท้อ อย่าได้ระทม แท้จริงเจ้าย่อมเป็นผู้ที่เหนือกว่า หากสูเจ้าเป็นผู้ที่ศรัทธา”


ที่ กล่าวผ่านมาทั้งหมดเป็นเพียงบางส่วนของข้อเสนอแนะในการดำเนินชีวิตเพื่อให้ ใกล้ชิดต่ออัลลอฮฺสำหรับมวลมนุษยชาติ -ซึ่งยังมีอีกหลายปัจจัย - ถนนแห่งชีวิตบนโลกดุนยาอันแสนสั้นและโหดร้ายมีแค่สองเส้นทางให้เลือก หนึ่ง...ทางที่สว่างเที่ยงตรงของหลักธรรมคำสอนแห่งอิสลาม กับสอง...ทางที่มืดมิดลุ่มหลงแห่งชัยฏอนมารร้าย

แน่ นอน...สำหรับผู้ที่ใคร่ครวญด้วยสติปัญญา เขาย่อมที่จะเลือกก้าวเดินให้กับชีวิตในเส้นทางที่หนึ่ง เพราะเส้นทางที่สว่างย่อมปลอดภัย และเดินได้อย่างสะดวกสบายกว่าทางที่มืดมิดที่คลาคล่ำไปด้วยสิ่งล่อลวง นำพาชีวิตไปสู่การลุ่มหลง...

และใครที่เลือกหนทางสายที่สอง...เราเพียงขอบอกว่า “มันไม่คุ้มค่าเอาเสียเลยที่เกิดมาพร้อมกับสติปัญญา แต่..กลับไม่ได้ใช้มันเพื่อการใคร่ครวญ”


0 ความคิดเห็น: